จดหมายจากน้องคนเก่ง

น้องมะปราง ครอบครัวภาษีผล

ด.ญ. ลภัสรดา (น้องมะปราง)
คุณพ่อ-ชยะพงษ์ คุณแม่-นพวรรณ

เรียน คุณลุงดนัย พี่ไก่ พี่แก้ว และพี่ๆทีมงานบ้านครอบครัวสาธิต ค่ะ

ต้องยอมรับว่าครอบครัวเราเพิ่งจะมองหาที่ติวเพื่อเตรียมความพร้อมในการสอบสาธิตให้น้องมะปราง เมื่อตอนที่น้องเริ่มขึ้นชั้นอนุบาล 3 ต้องขอบคุณคุณพ่อที่พยายามหาข้อมูลจนได้ไปพบข้อมูลของบ้านครอบครัวสาธิต และเราตัดสินใจลองมาร่วมงาน Open House เพื่อจะได้ทราบข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น และ น้องมะปรางเองก็ได้ทดลองสัมผัสกับคุณลุงดนัยและทีมงาน หลังจากร่วมงาน Open Houseแล้ว เราสอบถามความสมัครใจจากน้องมะปรางและตัดสินใจสมัครเรียนที่นี่ทันที เนื่องจากชื่นชอบในวิธีการ แนวทาง ที่คุณลุงดนัยสอนค่ะ

ครอบครัวเราคิดว่าสนามสอบสาธิตเป็นเพียงแค่ประสบการณ์ครั้งหนึ่ง ในช่วงชีวิตหนึ่ง ของน้องมะปรางที่น่าจะได้ทดลอง ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ตาม เราคิดว่าการเตรียมความพร้อมให้น้องในระหว่างนี้ต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญซึ่งน่าจะติดตัวน้องไปตลอดไม่ว่าจะไปเรียนที่โรงเรียนไหน และสิ่งที่น้องได้จากลุงดนัยและทีมงานคือ ความรู้รอบตัว การฝึกทดลอง (เลี้ยงหนอน, ปลูกข้าว) การฟัง การคิด ที่เป็นระบบและรอบคอบ น้องมะปรางเองก็บอกเสมอว่าเรียนกับคุณลุงดนัยสนุก

เมื่อเวลาใกล้สอบเข้ามา เราก็ไม่ลังเลใจที่จะลงคอร์ส Intensive อีกเช่นกัน เพื่อให้น้องได้ทบทวนและทดสอบวัดคะแนน เราได้กำลังใจและคำแนะนำดีๆจากคุณลุงดนัยในการดูแลน้องก่อนสอบ ทำให้ครอบครัวเราคลายความกังวล รวมถึงตัวน้องมะปรางเองก็ไม่เครียดค่ะ

สุดท้าย น้องมะปรางได้มีโอกาสสอบผ่านเข้าสู้รั้วสาธิตจุฬา ได้อย่างที่ตั้งใจ โดยมีคุณลุงดนัย พี่แก้ว พี่ไก่ และทีมงานบ้านครอบครัวสาธิคทุกๆคนเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้นะค่ะ ขอขอบพระคุณมากๆจากใจค่ะ

น้องแจสเปอร์ ครอบครัวเบญจมาภา

สวัสดีค่ะลุงดนัย ครูแก้ว ครูไก่

น้องแจสเปอร์ และครอบครัว ขอขอบคุณลุงดนัย ครูแก้ว ครูไก่และทีมงานทุกท่านเป็นอย่างสูง ตลอดหนึ่งปีเต็มที่ได้เรียนที่บ้านครอบครัวสาธิต ถือเป็นโชคดีของน้องแจสเปอร์เป็นอย่างยิ่ง การเรียนที่บ้านครอบครัวสาธิตเป็นช่วงเวลาที่แจสเปอร์รอคอยทุก ๆ ครั้ง ในแต่ละครั้งที่เรียนน้องแจสเปอร์จะกลับมาเล่าอย่างมีความสุขเกี่ยวกับการเรียนการสอนที่บ้านครอบครัวสาธิต ที่ทั้งสนุกสนาน อบอุ่นเป็นกันเอง ทำให้น้องแจสเปอร์มีพัฒนาการที่ดี ทั้งในด้านสมาธิ การฟัง การเรียบเรียงใจความสำคัญของเนื้อเรื่องและเนื้อหาที่ฟังได้เป็นอย่างดีและเห็นผลที่ชัดเจน ตลอดจนมีความรู้รอบตัวมากขึ้น

ในวันสอบน้องแจสเปอร์ได้พยายามอย่างเต็มความสามารถ และสอบติดโรงเรียนสาธิตประสานมิตร นำความยินดีมาสู่ครอบครัวของเราเป็นอย่างยิ่ง ขอขอบคุณลุงดนัย ครูแก้วครูไก่ที่ได้ทุ่มเทสอนน้องแจสเปอร์อย่างเต็มที่ น้องแจสเปอร์และครอบครัวรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก

สุดท้ายนี้ ขอพระอวยพรในน้ำใจดี ที่ลุงดนัย ครูแก้วครูไก่ และทีมงานได้มอบให้ ได้ส่งผลให้คุณครูและทีมงานบ้านครอบครัวสาธิตทุกท่านได้รับโอกาสที่ดี ๆ ในชีวิต เหมือนดั่งที่ท่านได้ให้โอกาสดี ๆ แก่ผู้อื่นเช่นเดียวกันค่ะ

ขอขอบคุณอีกครั้งค่ะ

น้องเกียร์ ครอบครัวองค์วรรณดี

เรียนคุณดนัย ครูแก้ว ครูไก่ และทีมงานที่เคารพ

น้องเกียร์ได้เคยมีโอกาสเข้าเรียนกับครูในคอร์สเพื่อสังคม เมื่อปีที่แล้ว และมันเป็นมากกว่าโอกาสที่คุณครูทั้งสามและทีมงานหยิบยื่นให้ค่ะ แม่คิดว่ามันเป็นโชคชะตา ของเกียร์เลยทีเดียว

เกียร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคุณครูค่ะ มีวันนึงทีน้องเรียนกลับมากจากบ้านครูดนัย แล้วกลับมาถามแม่ว่า “แม่คนที่สอบจุฬาได้นี่เก่งมากๆ เลยเหรอ” คงมีอะไรบางอย่างที่เกียร์ไปได้ยินมา แล้วเค้าก็ตัดสินใจเลือกโรงเรียนของเค้าเอง เค้ามีความมุ่งมั่น เพราะเค้าบอกแม่ว่า วันสอบที่จุฬาอ่ะ ครูดนัยจะไปหาเด็กๆ ทุกคน และถ้าใครสอบได้คุณครูจะให้ไปร่วมงานปาร์ตี้ 555

แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้ไปเรียน เราได้รับกลับมามากมาย สิ่งสำคัญที่คุณครูปลูกฝังทั้งลูกแม่และพ่อแม่ ให้เรียนรู้อย่างไม่สิ้นสุด และไม่มีกำแพงนั้น ไม่ว่ามากหรือน้อย บัดนี้มันได้เป็นผลแล้ว เพราะน้องเกียร์ทำได้

กราบขอบพระคุณคุรครูดนัย ครูไก่ ครูแก้วอย่างสูงนะคะ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นค่ะ และเราจะได้พยายามต่อไป

ด้วยความนับถือ

จดหมายจากน้องคนเก่งประจำปี 56

น้องแพร ครอบครัวเหล่าประดิษฐ์ (สาธิตจุฬา)

ด.ญ. ธนิดา เหล่าประดิษฐ์
คุณแม่ นันธิดา เหล่าประดิษฐ์

คุณพ่อขอสงวนสิทธิ์ค่ะยกความสำเร็จครั้งนี้ให้แม่ลูกและทางครอบครัวสาธิตค่ะ ขอขอบพระคุณครูดนัย น้องแก้ว น้องไก่มากๆ น่ะค่ะ แพรมีวันนี้ได้ก็เพราะครอบครัวสาธิตเป็นส่วนหนึ่งจริงๆค่ะ ขอบคุณทุกคำแนะนำ คำติชม ต่างๆที่มีส่วนทำให้คุณแม่นำมาปรับปรุงแก้ไขพฤติกรรมของน้องแพร ต้องยอมรับว่าแพรเค้าเด็กมากบางทีอาจทำให้เวลาสอนไม่ราบรื่นต้องขอโทษด้วยน่ะค่ะ แต่ในความเป็นเด็กของเค้าคุณแม่รู้ดีว่าเค้าแฝงด้วยความมุ่งมั่น เค้าคำนึงถึงคะแนนทุกครั้งเวลาสอบ และเค้าก็พูดเสมอว่า"แม่เชื่อแพรสิ แพรทำได้และก็ได้ที่1ด้วย" นั่นคือคำพูดของสาวน้อยคนนี้เวลาเราถามเค้าว่า "แพรว่าแพรจะทำได้มั้ยลูก"

จนมาถึงวันประกาศผลสอบทั้งสองที่เค้าก็สามารถสอบได้ทั้งสองที่ โดยสามารถทำT-Score ที่ประสานมิตรเป็นอันดับ1อย่างที่เค้าพูดหลังจากสอบเสร็จอีกครั้งนึงว่า "แม่คอยดูน่ะแพรทำได้ทั้งสองที่แหละ ได้ที่1ด้วย"เค้ามั่นใจตั้งแต่วันสอบแล้วทำให้คุณแม่ไม่ค่อยกลัวและวิตกกับผลสอบเท่าไหร่ เพียงลุ้นว่าเค้าจะทำได้อย่างที่เค้ามั่นใจมั้ย และวันนี้ลูกสาวตัวน้อยของแม่ก็ทำได้จริงๆและทำได้ดีเกินคาดด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นขอขอบพระคุณครูดนัยและทีมงานครอบครัวสาธิตทุกคนค่ะความสำเร็จครั้งนี้ขอยกให้กับครอบครัวสาธิตด้วยค่ะ

น้องเหมยอิง ครอบครัวกิติกุล (สาธิตเกษตร)

ด.ญ. ณัฐปภัสร์ กิติกุล
คุณพ่อ พรศักดิ์ กิติกุล
คุณแม่ มิตธิรา ภาสน์พัฒน์กุล

สวัสดีค่ะคุณลุงดนัย พี่ไก่ พี่แก้วค่ะ

ตลอดระยะเวลาเกือบปีหนึ่งที่ผ่านมาที่น้องเหม่ยอิงได้เข้ามาเรียนรู้ ฝึกฝนกับบ้านครอบครัวสาธิต สิ่งที่ได้รับมิใช่มีเพียงความรู้ วิชาการเท่านั้น ยังมีความอบอุ่น ความเอาใจใส่ที่บ้านหลังนี้มอบให้ ในทุกๆเรื่องที่จะหล่อหลอมให้เด็กคนนี้ได้ก้าวไปเป็นเด็กสาธิตสมความตั้งใจ

คุณลุงได้บอกเสมอว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเด็กที่จะสอบสาธิต คือการตั้งใจฟัง มีสมาธิ ให้เด็กมีความสุขมากที่สุดที่เขาควรจะได้รับ แล้วเขาก็จะมีความสุขที่จะเรียนรู้ สนใจและตั้งใจทำสิ่งต่างๆได้ดี ซึ่งสิ่งนี้เป็นข้อคิด เตือนใจเสมอมาสำหรับที่บ้าน นอกจากนี้การเอาใจใส่เรื่องธรรมชาติ เก็บสิ่งเล็กๆผสมน้อย เก็บรายละเอียด หรือการให้เด็กๆได้เจอของจริงๆ เช่น การปลูกข้าว สีข้าว นั้นเป็นเช่นไร สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้เพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้แก่เด็ก หรืออาจจะรวมถึงพ่อแม่เองในเรื่องบางเรื่องที่คาดไม่ถึง ก่อให้เกิดความประทับใจที่ได้รับจากบ้านอันแสนอบอุ่นที่มอบให้แก่บ้านเรา

ความใส่ใจดูแลมิใช่มีเพียงต่อเด็กเท่านั้น ยังรวมถึงคุณพ่อคุณแม่เองที่คุณลุงดนัย น้องแก้ว น้องไก่ให้คำปรึกษา กำลังใจที่มอบให้แก่เรา แม้กระทั่งโค้งสุดท้ายก่อนสอบยังมาให้กำลังใจเด็กๆก่อนเข้าสอบ สิ่งเหล่านี้เป็นความประทับใจ ซาบซึ้งใจ ไม่สามารถที่จะเอ่ยอะไรได้ไปมากกว่า "ขอขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆสำหรับบ้านครอบครัวสาธิตที่มอบให้แก่เรา"

ขอบคุณมากๆค่ะ

น้องชุน ครอบครัวสุรกานต์นนท์

(สาธิตเกษตร)

ด.ช. สมปรารถน์ สุรกานต์นนท์
คุณพ่อ นายแพทย์ สุรกานต์นนท์
คุณแม่ แพทย์หญิงจันทนา สุรกานต์นนท์

เรียนคุณครูดนัยที่เคารพยิ่ง
นี้คือจดหมายจากใจของครอบครัวเราค่ะ

ต้องยอมรับเลยค่ะ ว่าเพิ่งเตรียมตัวน้องชุนเพื่อสอบเข้าสาธิตเกษตรตอนอนุบาล 3 ทำให้ลำบากมากๆ เพราะข้อมูลเเละเนื้อหาค่อนข้างเยอะมาก

โชคดีที่ได้พบคุณครูดนัยที่ช่วยนำทาง และสอนสิ่งต่างๆที่ควรรู้เเละต้องรู้ คุณครูให้ความเป็นกันเอง สอนอย่างเป็นระบบทบทวนเนื้อหาจากง่ายไปยาก จากธรรมดาเป็นซับซ้อน เเละพยายามให้น้องเรียนอย่างสนุกสนาน

พวกเรามีวันนี้ได้ เพราะมีคุณครูเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญ

ขอบพระคุณคุณครูดนัยและทีมงานจากใจจริงค่ะ

ครอบครัวน้องชุน

น้องปรรณ์ ครอบครัวขันธวิทย์

(สาธิตเกษตร)

ด.ญ. ภัทร์นภันต์ ขันธวิทย์
คุณพ่อ สิทธิภูมิ ขันธวิทย์
คุณแม่ ปัณญนาถ ขันธวิทย์

ตอนแรกไม่ได้มีข้อมูลของบ้านครอบครัวสาธิต แต่มีน้องๆชวนให้ลองไปสมัครสอบคอร์สเพื่อสังคม ก็เลยไปลองดู ปรากฏว่ามีคนไปสอบกันเยอะมากจนน่าตกใจ ต้องขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีๆ ที่ให้บ้านเราได้มาเจอ

วันที่สอบ พี่ๆพาขึ้นไปดูห้องเรียนห้องสอบ น่าแปลกใจมากที่ปรรณ์เห็นครั้งแรก กลับลงมาบอกแม่ว่า “แม่ หนูจะทำเต็มที่” ทำเอาแม่งงไป ตอนนั้นเราแค่อยากให้ลูกได้ลองเพราะเราไม่รู้ว่า ลูกเราได้ขนาดไหน แต่แค่ได้ยินว่า เค้าชอบสถานที่ ก็ดีมากแล้ว เพราะมีบางที่พาไปแล้ว ปรรณ์ไม่ชอบเอาจริงเอาจังมาก ร้องไห้ ไม่ยอมเข้าเรียน ไม่ยอมสอบ

ผลสอบถือว่าเป็นโชคดีของปรรณ์ ที่ทำให้ได้มีโอกาสเรียนกับครอบครัวสาธิต ได้พบกับครูดนัย กับพี่แก้ว พี่ไก่ ที่ปรรณ์กลับมาเล่าให้ฟังทุกครั้ง หลังจากที่ได้เรียนคอร์สเพื่อสังคมไปช่วงสั้นๆ ปรรณ์ก็ได้แต่พูดถึง บอกว่าอยากเรียนกับครูดนัยมาตลอด แต่ทางบ้านก็ไม่ได้ให้ปรรณ์เรียน

จนกระทั่ง ช่วงต้นปี รู้สึกว่าเค้าเริ่มแย่ลงมาเรื่อยๆ ไม่รู้ว่ามาจากความเบื่อที่ต้องเรียนมาเกือบปีแล้วรึป่าว หรือหมดกำลังใจ วันนั้นจำได้ว่ารู้สึกท้อมาก เลยปรึกษากันว่าจะเอายังไงต่อดี เลยนึกถึงครูดนัยซึ่งเป็นครูที่ปรรณ์ขอว่าอยากไปเรียนมาตลอด สุดท้ายก็ได้ไป intensive กับบ้านครอบครัวสาธิต สมใจ พอดีช่วงที่เรียนทางรร.ปิดเทอมแล้ว

ปรรณ์ได้เรียนกับครูอีกครั้ง เค้าค่อยๆดีขึ้นๆเริ่อยๆ อย่างน่าแปลกใจ ปรรณ์ทำคะแนนได้ดีในทุกครั้งที่ไปเรียน ซึ่งทางบ้านยังแอบไม่แน่ใจ แต่เราก็ไม่อยากยุ่งกับเค้ามาก แค่เค้ามีความสุขก็พอ ทุกครั้งที่ปรรณ์ไปเรียน จะต้องไปดูที่บอร์ดว่ามีชื่อเค้าติดบอร์ดรึป่าว ซึ่งก็มีบางครั้งที่อาจไม่มีชื่อ เนื่องจากคะแนนอาจไม่ดี หรือเนื่องจากปรรณ์เปลี่ยนรอบเรียนบ่อย จนครูบันทึกคะแนนไม่ตรงรอบ แต่สิ่งที่ดีใจคือ วันหนึ่งปรรณ์ไปดูบอร์ด เค้าไม่เห็นชื่อตัวเอง เค้าหันมาบอกว่า “ไม่มีชื่อหนู แต่ไม่เป็นไร” แล้วเค้าก็ขึ้นไปเรียนตามปกติ เราก็ดีใจที่ ถ้าวันนึงลูกสอบไม่ติดเค้าคงไม่เสียใจมากมาย

พอถึงวันสอบ เค้าอารมณ์ดีมาก และไม่ตื่นเต้นกับการสอบ ระหว่างรอที่เต๊นท์กลางสนาม ครูดนัยได้มาให้กำลังใจ ทำให้ปรรณ์รู้สึกพร้อมมาก กำลังใจดีมาก ขึ้นห้องสอบอย่างเบิกบาน ต้องขอบคุณคุณครูดนัย กับพี่แก้ว พี่ไก่มากนะคะ ที่ทำให้กำลังใจของปรรณ์กลับขึ้นมาได้ จนทำได้สำเร็จสมใจ ยอมรับเลยค่ะ ว่าเราตัดสินใจในช่วงสุดท้ายถูกต้องที่ไปหาครูดนัย ทุกวันนี้ เรายังดีใจทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ ยอมรับเลยค่ะว่า คุณครูมีจิตวิทยาดีมากๆ มีลำดับขั้นตอนการสอนที่ดี ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

น้องออม ครอบครัวเพียราธิสิทธิ์

(สาธิตเกษตร)

ด.ญ. เพชรชมพู เพียราธิสิทธิ์
คุณพ่อ ศุภวุฒิ สุขสมนิรันดร
คุณแม่ ศิริพร เพียราธิสิทธิ์

สวัสดีค่ะ คุณครูดนัย ครูแก้ว ครูไก่ และทีมงานบ้านครอบครัวสาธิตทุกท่าน

ก่อนหน้าที่จะตัดสินใจเลือกโรงเรียนติวเพื่อสอบเข้าโรงเรียนสาธิตให้น้องออม คุณแม่ได้พยายามหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ทั้งผู้ปกครองรุ่นพี่ เพื่อนๆ และอินเตอร์เน็ต และด้วยบุคลิกลักษณะของน้องออมในช่วงนั้นที่ค่อนข้างปรับตัวให้เข้ากับคนอื่นได้ช้าอยู่สักนิด คุณแม่จึงอยากให้น้องออมติวกลุ่มเล็ก คุณครูดูแลทั่วถึง และคุณครูใจดีมากๆ ซึ่งหลายๆคนก็แนะนำว่าให้มาที่บ้านครอบครัวสาธิตแห่งนี้ และเมื่อได้มาเรียนแล้ว น้องออมก็ชอบมาก มีความสุขที่จะมาเรียน เพราะการเรียนไม่เคร่งเครียดเกินไป คุณครูดนัยสอนสนุก และยังมีกิจกรรมเสริมต่างๆ ให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ เช่น การปลูกข้าว การเลี้ยงหนอนไหม

คุณครูดนัยจะสรุปการเรียนการสอน ให้ผู้ปกครองทราบทุกครั้งเพื่อให้นำไปต่อยอดสอนน้องเพิ่มเติมที่บ้านได้ สอนเทคนิคในการทำข้อสอบช่วยลดข้อผิดพลาดในการทำข้อสอบได้เป็นอย่างดี ช่วงระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่น้องออมได้เรียนที่บ้านครอบครัวสาธิต น้องออมมีทักษะความพร้อมในด้านต่างๆ ที่ดีขึ้นมากอย่างชัดเจน ทั้งสมาธิ การฟัง เชาว์ปัญญา วิชาการและความรู้รอบตัว

สุดท้ายนี้คุณแม่และครอบครัวต้องขอขอบคุณคุณครูดนัย ครูแก้ว ครูไก่ และทีมงานบ้านครอบครัวสาธิตทุกท่านที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการเตรียมความพร้อมของน้องออมเพื่อสอบเข้าเป็นนักเรียนสาธิตเกษตรจนสำเร็จค่ะ

คุณแม่น้องออม

จดหมายจากน้องคนเก่งประจำปี 55

น้องเยียร์ ครอบครัวหิรัญพฤกษ์

(สาธิตเกษตร)

ด.ญ. มาติกา หิรัญพฤกษ์
คุณพ่อ มงคล หิรัญพฤกษ์
คุณแม่ ชนิดาภา หิรัญพฤกษ์
คุณลุง สมวงศ์ พงศ์สถาพร

เรียนคุณครูดนัย

นับว่าเป็นโชคของน้องเยียร์ที่ได้มารู้จัก บ้านครอบครัวสาธิต โดยบังเอิญ จากการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ท และการแนะนำของผู้ปกครองของเพื่อนของน้องเยียร์ที่โรงเรียนแสงโสม เมื่อคุณแม่ของน้องเยียร์มาปรึกษา จึงให้ไปทดลองเรียนดู ปรากฎว่าน้องเยียร์ชอบ เราจึงตัดสินใจให้น้องเยียร์ลงเรียนทั้งหลักสูตรธรรมดา และหลักสูตรติวเข้มก่อนสอบ

การติวที่นี่ไม่เร่งเด็กจนเกินไป ทำให้เด็กไม่ท้อและเหนื่อยเกินวัย แต่เน้นการสอนและติวเทคนิกการฟัง และการโจทย์ ทำให้เด็กคุ้นเคยกับคำสั่ง และบรรยากาศในห้องสอบได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณครูดนัยยังได้สรุปให้ฟังทุกครั้งว่ามีการติวอะไรบ้างในแต่ละวัน พร้อมทั้งบอกคะแนนของการทดสอบแต่ละครั้ง ทำให้สามารถประเมินได้ว่า น้องเยียร์ยังอ่อนในด้านอะไร โดยเฉพาะการฟัง ทำให้เราสามารถเสริมทักษะในสิ่งที่น้องเยียร์ยังต้องปรับปรุงได้

หลังจากมาเรียนได้สักพัก ได้เห็นความก้าวหน้าในการทำโจทย์ของน้องเยียร์ดีขึ้นเป็นลำดับ จนกระทั่งน้องเยียร์ไปสอบpre-test ที่สาธิตประสานมิตร จนติดหนึ่งในสิบของเด็กเล็ก ก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ตัดสินใจไม่ผิดที่ให้น้องเยียร์มาเรียนกับ บ้านครอบครัวสาธิต

ต้องขอขอบคุณครูดนัย และทีมงานทุกคน ที่ได้ทุ่มเทสอนน้องเยียร์ทำโจทย์ข้อสอบ จนน้องเยียร์สามารถสอบติด โรงเรียนสาธิตเกษตร ได้

น้องแพรไหม ครอบครัวเจษฎาอภิบาล

(สาธิตประสานมิตร)

ด.ญ. อภิษฎา เจษฎาอภิบาล
คุณพ่อ จันทรเมษ เจษฎาอภิบาล
คุณแม่ พัชราภรณ์ แซ่ก่ำ

สวัสดีค่ะ คุณครูดนัย ครูแก้ว ครูไก่

ต้องขอขอบคุณ คุณครูทุกท่านที่ช่วยดูแลน้องแพรไหมอย่างดี และมีส่วนช่วยทำให้น้องแพรไหมสอบติดสาธิตประสานมิตรในปีนี้ โดยส่วนตัวคุณแม่และคุณพ่อไม่ได้คิดว่าน้องแพรไหมจะสามารถสอบติด เนื่องจากน้องแพรไหมมีเวลาในการเตรียมตัวน้อย เริ่มจากคุณแม่สมัครสอบพรีเทสต์ของประสานมิตร จึงได้เริ่มให้น้องทำข้อสอบเชาว์ปัญญาจากหนังสือที่หาซื้อมาให้น้องทำ และผลคะแนนพรีเทสต์น้องไม่ดีมาก ทำให้คุณพ่อและคุณแม่ คิดว่าน้องอาจจะต้องเรียนติวเพิ่ม แต่คุณแม่ติดต่อไปที่เรียนติว ส่วนมากมักไม่รับเนื่องจากน้องมีเวลาเรียนเพียง 2 เดือนก่อนสอบจริง ทำให้คุณแม่รู้สึกกังวลใจ และตัดสินใจช่วยกันสอนน้องทำข้อสอบเชาว์เอง และขอความร่วมมือทางคุณครูประจำชั้นที่โรงเรียนร่วมกัน

ต่อมาโรงเรียนปิดภาคเรียน คุณแม่จึงตัดสินใจดูโบชัวร์ที่ได้รับตอนไปสมัครสอบ และเมื่อพิจารณาอย่างดีแล้ว จึงตัดสินใจเลือกเรียนที่บ้านครอบครัวสาธิตของคุณครูดนัย เนื่องจากมีคอร์สติวเข้ม (intensive) 10 ครั้ง 20 ชั่วโมง ซึ่งทางคุณพ่อและคุณแม่พิจารณาแล้วเห็นว่า เหมาะสมกับระยะเวลาที่มีอยู่ และได้ตัดสินใจพาน้องมางาน Open House ซึ่งเมื่อมาแล้ว รู้สึกประทับใจการสอนของคุณครู และตัวน้องแพรไหมมีความสุขรู้สึกสนุกกับการเรียน จึงได้ตัดสินใจสมัครเรียน คอร์สที่มีอยู่

จากการเรียนที่นี่ คุณแม่เห็นพัฒนาการทางด้านการทำเชาว์ปัญญา ของน้องแพรไหมดีขึ้นเรื่อย ๆ น้องมีเทคนิคในการทำข้อสอบที่ดีขึ้น และรู้จักวิเคราะห์โจทย์ดีขึ้น แต่เนื่องจากการมีเวลาเตรียมตัวไม่มาก ทำให้คุณพ่อคุณแม่ ไม่มีความกดดันในการสอบของน้อง และยังคงให้น้องทำข้อสอบเชาว์ปัญญากับคุณพ่อคุณแม่เป็นประจำ จนถึงวันสอบ เมื่อถึงวันสอบ น้องแพรไหมบอกว่า ข้อสอบไม่ยาก มีเพียง 40 ข้อ ที่คุณแม่สอนน้องยากกว่า แต่คุณแม่และคุณพ่อก็ไม่ได้คิดว่าน้องจะสอบติด เนื่องจากมีเด็ก ๆ ที่มีความสามารถเข้าสอบเป็นจำนวนมาก และเมื่อถึงวันประกาศผลสอบ น้องแพรไหมสามารถสอบติดสาธิตประสานมิตร ปี 55 ได้ คุณพ่อและคุณแม่ต่างประหลาดใจ และดีใจเป็นอย่างมากที่น้องสามารถทำได้

คุณพ่อคุณแม่รู้สึกขอบคุณ ทางบ้านครอบครัวสาธิต ที่ช่วยดูแลและเอาใจใส่น้องแพรไหมเป็นอย่างดี จนน้องแพรไหมประสบความสำเร็จในครั้งนี้

น้องมาย ครอบครัวโพธิ์พฤกษาวงศ์

(สาธิตเกษตร)

ด.ญ. นงนภัส โพธิ์พฤกษาวงศ์
คุณพ่อ ร.ท.ธเนศ โพธิ์พฤกษาวงศ์
คุณแม่ ธัญนัฏ โพธิ์พฤกษาวงศ์

น้องมายเริ่มเรียนกับคุณครูดนัย ตอนจบอนุบาล 2 ในคอร์สติวเข้มที่ต้องมีการวัดผลทุกวันเพื่อสอบเข้าสาธิตประสานมิตร คะแนนที่ออกมาทำให้เราพ่อ แม่ ลูก เริ่มไม่ตั้งความหวัง เมื่อถึงวันที่พาลูกไปสอบได้เจอครูดนัยก็แปลกใจว่าคุณครูมาทำอะไร จึงถามครูว่ามีหลานมาสอบเหรอ คุณครูตอบว่าครูมาให้กำลังใจน้องๆทุกคนที่สอบและคุณครูนัดรถแท็กซี่ไว้แล้วเพื่อวิ่งไปทุกสนามสอบทั้ง 3 สาธิต คุณพ่อและคุณแม่รู้สึกประทับใจ จึงบอกกับครูดนัยว่า ไม่ว่าน้องจะสอบติดหรือไม่ก็จะให้น้องเรียนกับคุณครูต่อในปีหน้า ผลสอบออกมาน้องสอบไม่ติดและด้วยความตั้งใจที่มีอยู่เดิมจึงให้ลูกเรียนคอร์สทั้งปี เพราะคุณพ่อคุณแม่เชื่อว่า การที่เราจะเก่งระดับเป็นมืออาชีพได้ต้องอาศัยการฝึกฝนที่ยาวนาน

ในตอนนั้นก็ยังกังวลกลัวลูกเกิดความเครียดเนื่องจากระยะเวลาที่ยาวนาน ทุกอาทิตย์ที่ลูกจบการเรียนจากครูดนัยคุณแม่จะถามลูกทุกครั้งว่าสนุกไหม ลูกจะตอบว่าสนุกทุกครั้งแถมยังมาเล่ามุกตลกของครูดนัยให้ฟังอีกด้วย คุณแม่จึงเข้าใจว่าครูดนัยได้เปลี่ยน ความยาก ความน่าเบื่อของเนื้อหา ให้กลายเป็นความสนุก นั่นคือสิ่งที่สำคัญเพราะเด็กจะไม่สามารถเรียนรู้ได้ภายใต้ความเครียดและกดดัน

เมื่อใกล้วันสอบเข้าสาธิต น้องมายต้องไปเรียน summer ที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ น้องเรียนได้ประมาณ 3 วัน ร้องไห้ทุกวันเนื่องจากโรงเรียนในเครือคาทอลิกเรียนหนักในวันที่น้องกลับมาเรียนติวเข้มกลับคุณครูดนัย น้องร้องไห้และบอกครูดนัยว่า ไม่อยากไปเรียนที่เซนต์โยเซฟ ครูดนัยจึงมาบอกคุณแม่และให้หยุดไปเรียนจนกว่าจะสอบเนื่องจากกำลังใจของน้องเป็นเรื่องสำคัญมาก ในตอนนั้นคุณแม่เรียนรู้ว่า น้องมายมีความผูกพันกับครูดนัยจึงร้องไห้และบอกความรู้สึกออกมาซึ่งโดยปรกติแล้วน้องจะเป็นเด็กพูดน้อย

จนมาถึงวันสอบสาธิตเกษตร คุณพ่อคุณแม่ไปส่งน้องและได้เจอคุณครูดนัย คุณครูพูดให้กำลังใจและลูบศรีษะน้องอย่างเอ็นดูเสมือนลูกหลาน คุณแม่รู้ได้ว่าในวันนั้นน้องมีกำลังใจดีมาก วันประกาศผลทั้งคุณพ่อ คุณแม่ไม่ได้ไปดูแต่มีเพื่อนโทรมาแสดงความยินดี เมื่อแน่ใจว่าลูกสอบติด คนแรกที่คุณแม่โทรไปขอบคุณ คือ คุณครูดนัย และบอกครูว่าขอครูดนัยเป็นที่ปรึกษาด้านการศึกษาของลูกเนื่องจากทุกคนในครอบครัวรู้สึกผูกพันเสมือนญาติ น้องมายเติบโตมาในครอบครัวใหญ่มีคุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณลุง คุณป้าหลายคน ทั้งฝั่งพ่อและแม่ ทุกคนต่างให้กำลังใจก่อนสอบและตื่นเต้น ดีใจเมื่อรู้ว่าน้องมายสอบได้ คุณปู่จึงแต่งกลอนเพื่อขอบคุณครูดนัย ครูแก้วและครูไก่ และให้กลอนนี้เป็นคำมั่นสัญญาที่น้องมายมีให้คุณครูค่ะ

ขอขอบคุณ     ครูดนัย ครูไก่     และครูแก้ว
ที่ส่งเสียง     แจ้วแจ้ว     สอนพวกหนู
พวกเราต่าง     สมัคร     รักคุณครู
ที่สั่งสอน     ให้หนู     เป็นเด็กดี
หนูจะตั้ง     ใจเรียน     ขีดเขียนอ่าน
จะรักงาน     รักเรียน     เพียรไม่หนี
จะตั้งใจ     ใฝ่เรียน     เพียรทำดี
ให้สมที่     ครูสอน     ตอนหนูเรียน

น้องมาย ( นงนภัส โพธิ์พฤกษาวงศ์ )

ครอบครัวเราเพิ่งกลับจากการเข้าค่ายบ้านครอบครัวสาธิตรุ่นที่ 4 ที่อัมพวา จึงขอเชิญชวนคุณพ่อ คุณแม่ทุกท่านร่วมกิจกรรมนี้ เพราะ สิ่งที่อาจารย์บรรยาย คือ ความรู้ด้านสมองที่เรานำไปใช้กับลูกได้ เข้าใจง่าย ไปเที่ยวแถมความรู้ คุ้มค่าจริงๆค่ะ